การทำธุรกิจแบบ SaaS หรือ Software as a Service กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในโซนประเทศอเมริกาครับ เช่น Adobe Creative Cloud หรือ Microsoft Office 360 ที่ผู้ใช้ต้องจ่ายเงินรายเดือนในเพื่อใช้ซอฟแวร์ ซึ่งต่างกับในอดีตที่โปรแกรมขายขาดจ่ายครั้งเดียว
บทความแนะนำ: รู้จักกับธุรกิจแบบ SaaS เพิ่มขึ้นได้จากบทความ สรุปงานชีวิต-ติด-วัด Metrics for Startup ครับ
สำหรับในไทยโมเดลธุรกิจนี้ยังใหม่อยู่ครับ ซึ่งคนนอกสายไอทีอาจจะยังไม่ชินกับการที่ต้องจ่ายค่าโปรแกรมเป็นรายเดือน รายปีมากนัก เช่นเดียวกันกับประเทศจีนที่ธุรกิจประเภท SaaS เติบโตน้อยมาก ในปี 2014 ประเทศจีนใช้จ่ายกับ SaaS แค่ 3% ของค่าใช้จ่ายใน SaaS ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนมีการเติบโตด้าน E-Commerce สูงจนน่าตกใจ จากปี 2012 ที่คนจีนใช้จ่ายกับ E-Commerce พอ ๆ กับอเมริกา จนตอนนี้มากกว่าอเมริกาถึง 2 เท่า

ยอดขาย E-Commerce ในจีนกับอเมริกา ขอขอบคุณรูปจาก Chinamarketingtips
“จุดเปลี่ยน” ด้าน SaaS ของประเทศจีนกำลังจะมาถึง
ด้าน SaaS ของประเทศจีนมี Market Share การใช้จ่ายเพียง 3% เทียบกับอเมริกาที่มียอดค่าใช้จ่ายใน SaaS ถึง 60% อาจจะมาจากเหตุผลว่าธุรกิจใหญ่ ๆ ในจีนยังไม่ต้องการใช้ SaaS มากนัก
คุณ Peng T. Ong หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Match.com เว็บไซต์หาคู่ชื่อดัง ให้ความเห็นไว้อย่างน่าสนใจว่า สำหรับในเอเชีย การจ้างคนมาแก้ปัญหามีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการใช้ SaaS ซึ่งถ้าถึง “จุดเปลี่ยน” ที่ GDP ของประเทศอยู่ในระดับ $8,000 – $10,000 ต่อหัวต่อปีเมื่อไหร่ บริษัทก็จะเริ่มหันมาสนใจ SaaS มากขึ้น
ตอนนี้ GDP ของประเทศจีนใกล้แตะ $7,000 ต่อหัวต่อปี ซึ่งไม่ไกลจากจุดเปลี่ยนแล้ว เพราะฉะนั้น SaaS ในจีนมีแนวโน้มว่าจะบูมขึ้นมาในอนาคตอันใกล้นี้ (ส่วนของประเทศไทย GDP $5,780 ต่อหัวต่อปี)
คำถามที่เจ้าของธุรกิจหลาย ๆ ท่าน หรือคนที่อยากทำ SaaS สงสัย ก็คือ… แล้วเราจะบุกตลาดจีนได้อย่างไร
ธุรกิจ SaaS ต่างชาติจะเจาะ Great Firewall ของจีนได้ยังไงบ้าง
ธุรกิจใหญ่ ๆ จากอเมริกา เช่น Groupon หรือ Ebay เคยพยายามเข้าไปบุกตลาดจีน แต่ก็ล้มเหลวเพราะไม่สามารถแข่งกับธุรกิจของคนในประเทศจีนเองได้ มาดูกันว่าจะมีทางไหนที่เราจะไปทำธุรกิจในจีนได้บ้าง1) โฮสต์ SaaS นอกประเทศจีน
หลาย ๆ ท่านที่เคยไปจีน น่าจะทราบว่า Internet ของจีนมี Firewall สุดโหด ที่จะทำให้การเข้าถึงเว็บต่างประเทศช้าลงอย่างมาก หรือบางเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบ เช่น Facebook ก็โดนบลอคไปเลย ถ้าคุณทำธุรกิจ SaaS ที่ต้องมีการเชื่อมต่อ หรืออัพโหลด-ส่งไฟล์ บ่อย ๆ จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่คนจะใช้บริการถ้าการเชื่อมต่อช้า
2) โฮสต์ SaaS ในประเทศจีน
แล้วถ้าเราจะโฮสต์ในประเทศจีนเลยล่ะ ? ประเทศจีนบังคับว่าทุกเว็บไซต์ต้องมี ICP License ซึ่งการจะได้มันมา คุณต้องเป็นคนจีนเท่านั้น แปลว่าการที่อยู่ ๆ เราจะไปเปิดเว็บไซต์ในจีนนั้นเป็นไปไม่ได้เลย (ถ้าเชื้อสายจีนก็ไม่แน่)
3) ขายลิขสิทธิ์ให้กับนักลงทุนจีน
วิธีนี้อาจจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเข้าไปในจีน โดยขายลิขสิทธิ์ให้กับนักลงทุนจีน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจีนจะเป็นผู้ดูแล และโฮสต์ระบบ SaaS ของเราทั้งหมด จึงอาจจะลำบากถ้าเราต้องการเข้าไปดูแลควบคุมด้วย สำหรับผู้ที่สนใจขายลิขสิทธิ์สามารถดูรายละเอียดเรื่องกฏหมายในเว็บไซต์ ChinaLawBlog ได้
Case Study การทำ Partnership กับธุรกิจจีน
นอกจากการขายลิขสิทธิ์ให้กับนักลงทุนจีนที่พูดถึงก่อนหน้านี้แล้ว เราสามารถทำ Partnership จับมือกับธุรกิจในจีนได้อีกด้วย
หนึ่งใน Case Study ที่น่าสนใจ คือ บริการ SaaS ชื่อดังอย่าง Zoho ที่จับมือกับ Baihui นำระบบ CRM มาเปิดตลาดในประเทศจีนในชื่อ Baihui CRM

หน้าตาเว็บไซต์ Baihui CRM
สรุปการนำเข้าธุรกิจ SaaS สู่ตลาดจีน
ถึงแม้ว่าจะมีข้อกฏหมายมากมายที่ขัดขวางการนำ SaaS เข้าประเทศจีน แต่อย่าลืมว่าธุรกิจ SaaS ดัง ๆ ในต่างประเทศก็ไม่สามารถบุกเข้าตลาดนี้มาได้ง่าย ๆ เช่นกัน เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถทำได้ โอกาสจะเจอคู่แข่งยักษ์ใหญ่มีน้อยมาก
นอกจากนั้นประเทศจีนก็ยังมีตลาดที่ใหญ่มาก ๆ รออยู่ ซึ่งถ้าคุณเปิดตลาดในจีนได้สำเร็จมีโอกาสที่จะเติบโตเร็วกว่าธุรกิจ SaaS ในอเมริกาเสียอีก
อ้างอิงข้อมูล จาก: ChartMogul
Leave a Reply